คงทราบกันอยู่แล้วว่าการเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถนั้น ควรดูที่เลขความดันลมยางที่ระบุตรงข้างประตูที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดค่าแรงดันลมยางมาจากโรงงานซึ่งเหมาะสมในการใช้รถปกติทั่วไป
แต่นั่นก็ไม่ใช่ค่าตัวเลขที่ตายตัวเพราะผู้ขับขี่รถหลาย ๆ คนมีการใช้รถที่ไม่เหมือนกัน เช่น ต้องการความรู้สึกที่นุ่มนวลขึ้น มีการบรรทุกน้ำหนักมาก วิ่งระยะทางไกล ๆ เป็นประจำ การเติมลมยางสามารถเผื่ออ่อนเผื่อแข็งได้ แต่อย่าให้มากจนเกินไป เพราะจะมีผลต่ออายุการใช้งานของยาง สมรรถนะในการทางตัวและระยะในการเบรกได้ ลองไปดูผลจากการปรับแรงดันลมยาง
หากเติมลมยาง อ่อนเกินไป – ผู้ขับขี่จะรู้สึกได้ถึงช่วงล่างที่นุ่มนวล แต่ก็มีข้อเสีย คือ เครื่องยนต์จะทำงานหนักกว่าปกติ นั่นหมายถึงจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากว่าการเติมลมยางแบบปกติ และหากขับมาด้วยความเร็วรถจะมีอาการโยนตัวไม่นิ่ง ยิ่งเจอกับสภาพพื้นถนนที่ไม่เรียบจะยิ่งรู้สึกได้ เสี่ยงต่อการระเบิดของยาง เนื่องจากแก้มยางจะมีการสั่นตัวมากขึ้นจนเกิดความร้อนสะสมในยาง
หากเติมลมยาง แข็งเกินไป – ประสิทธิภาพในการบรรทุกหนักดีขึ้น การออกตัวจะรู้สึกดีกว่า แต่ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนบนทางโค้งจะลดลง ระยะการเบรกจะยาวขั้น มีความสั่นสะเทือนเข้ามาในห้องโดยสารมากขึ้น
ดังนั้น ในการเติมแรงดันลมยางตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตแนะนำจึงเหมาะสมที่สุด แต่หากมีความจำเป็นสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามสภาพการใช้งานเป็นครั้งคราว และอย่าลืมผลที่ได้จากการเติมลมยางเพื่อที่เราจะได้ปรับพฤติกรรมในการขับให้เหมาะสมและขับด้วยความระมัดระวังยิ่งขึ้นนะคะ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า หรือติดต่อศูนย์บริการโตโยต้าแก่นนคร
ขอบคุณคำแนะนำดีๆจาก etoyotaclub